วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ความหมายของ โป่งข่าม




     
  คำว่า ?โป่ง?   ตามพจนานุกรมหลักภาษาไทยพายัพ เรียบเรียงโดยพระธรรมราชานุวัตร   ราชบัณฑิตยสถานจัดพิมพ์ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ แปลคำว่าโป่งดิน คือดินโป่ง   โป่งน้ำคือน้ำโป่ง มิได้แปลคำว่าโป่งโดยเฉพาะส่วนพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.   ๒๔๙๓ แปลคำว่า โป่งดิน คือดินที่มีเกลือโป่งน้ำคือช่องดินที่มีน้ำพุขึ้นมา คำว่า   ?โป่ง? หมายถึง ของที่พองลม เรียกผีที่อยู่ตามดินโป่งว่าผีโป่ง   เรียกป่าที่ดินโป่งว่าป่าโป่ง
  คำว่า ?ข่าม?   หมายถึงการอยู่ยงคงกระพัน
  แต่เมื่อคำว่า ?โป่งข่าม?   มารวมกันจะแปลอย่างไรจึงจะกะทัดรัดที่สุดเล่า
     
  บริเวณป่าตามขุนดอยแม่แก่ง   มีดินโป่งอยู่หลายแห่งก่อนที่จะถึงบริเวณที่เรียกว่าโป่งหลวง   แหล่งกำเนิดชื่อโป่งข่ามมีโป่งแกอยู่ด้านซ้ายมือ โป่งแพ่ง โป่งแม่ล้อม   อยู่ถัดๆไปล้อมรอบบริเวณที่เรียกว่าโป่งหลวง   พระฤๅษีที่อยู่ในป่ามักอาศัยถ้ำและอยู่ได้ด้วยการอาศัยเกลือจากดินโป่งด้วย   ที่เขตน้ำแม่แก่งของตำบลแม่ถอดนี้   มีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่งอาจจะเคยเป็นที่อยู่ของพระฤๅษีในสมัยโบราณ   ปัจจุบันเป็นวัดขึ้นแล้วชื่อ วัดสุขเกษม   ยังมีตำบลที่อยู่ติดกับตำบลแม่ถอดชื่อตำบลนาโป่ง   แต่โดยบริเวณโป่งหลวงอันเป็นที่มีสัตว์ลงกินดินโป่งมากเป็นพิเศษ และ   มีกิติศัพท์ในเรื่องราวความข่ามคงต่างๆ อาจจะหมายถึง บริเวณโป่งดินที่เคยข่าม ก็ได้   ทั้งนี้ก็เพราะคำว่าโป่งนี้ หมายถึงสิ่งที่ผุดขึ้นมาได้ด้วย เช่นโป่งน้ำพุร้อน   ที่จังหวัดเชียงราย   ไส้เทียนที่ลงยันตคาถาเรียกว่าโป่งเทียนดินที่เป็นพิษต่อการเจริญเติบโตของพืช   เช่นบริเวณสถานที่เรียกว่าโป่งแห้งในเขตตำบลบ้านเป้า อำเภอเมืองลำปาง   หมายถึงที่ผุดขึ้นมาของดินพิษ หินที่มีเนื้ออ่อนทำหินลับมีดได้   เช่นหินในเขตอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เรียกว่าหินโป่ง ซึ่งในตำบลแม่ถอดนี้   ยังคงใช้หินโป่งของอำเภอแจ้ห่มเจียระไนแก้วโป่งข่ามอยู่เสมอ   แหล่งแก้วตำบลแม่ถอดเป็นแก้วหินที่งอกอยู่ใต้ผิวดินในลักษณะสิ่งที่ผุดขึ้นมาโดยช่องร้าวของพิภพ   เมื่อมีสิ่งมีค่าหาได้ยากผุดขึ้นมาได้เช่นนี้   และมีเรื่องราวของความข่ามคงเล่าสืบกันมาก็อาจจะตีความหมายด้วยวิธีแปลอย่างสละสลวยได้อีกว่าแหล่งที่ผุดขึ้นมาแห่งความข่ามคง   ในสภาพสถานที่นั้นเป็นโป่งแก้วอันล้ำค่าอีกด้วย
       

  โดยที่เทือกเขาขุนตาลอันแผ่มาถึงขุนแม่ถอด ขุนแม่เตินและขุนแม่อาบ ขุนแม่อวม   ซึ่งแผ่ลงมาเป็นอาณาบริเวณบ่อแก้วโป่งข่ามนี้   เป็นภูเขาที่มีรอยผุรอยร้าวน้อยกว่าภาคกลาง หินอัคนีที่แซกขึ้นมาเป็นช่องเล็กๆ   หินแก้วต่างๆที่กำเนิดจากเทือกดอยดังกล่าวนี้ จึงมีทรงผลึกเล็กๆขนาดจุ๋มจิ๋ม   ซึ่งเหมาะที่สุดในการที่จะเป็นหินแก้วประดับมากกว่าประโยชน์ทางอุตสาหกรรมความมีสภาพเป็นทรงผลึกเล็กๆนี่เอง   ที่ทำให้ลวดลายต่างๆจากสินแร่อื่นๆเข้าไปปรากฏ   จึงมีสภาพที่สมบูรณ์แบบในการที่จะทำเป็นแก้วแหวนต่างๆ เป็นสิ่งที่เรียกว่า   ?โป่งข่าม? โดยแท้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น